ช่วงวันหยุดสั้นๆ ถ้าเกิดอยากเที่ยวทะเลนายสัญจรขอแนะนำหาดชำอำทะเลแห่งจังหวัดเพชรบุรี หาดชะอำนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งการเดินทางไปก็สะดวกสบาย และยังสามารถไปได้ทั้งทางรถไฟ รถประจำทาง และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล สะดวกไปช่องทางไหนก็ไปช่องทางนั้น
สำหรับนายสัญจรเองเคยเดินทางไปกับเพื่อนๆ ด้วยรถไฟเมื่อสมัยเรียน ช่วงนั้นยังวัยรุ่นอยู่จึงเป็นอะไรที่สนุกสนานมากๆ ถ้ามีโอกาสนายสัญจรก็คิดไว้จะลองกลับไปย้อนอดีตอีกสักครั้ง
หาดชะอำนั้นนับได้ว่าเป็นชายหาดที่คนไทยในภาคกลางให้ความสนใจลำดับต้นๆ ดังนั้นจึงทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดชะอำเป็นบรรยากาศแบบไทยๆ ซึ่งจะแตกต่างกับชายหาดหัวหิน ที่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติเพราะบรรยากาศแบบไทยๆ นี้เองที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย ให้เดินทางมาท่องเที่ยวกันอย่างมากมายในช่วงวันหยุด สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็มีแต่น้อย ส่วนใหญ่จะเลยไปหัวหินกันหมด
ประวัติความเป็นมา “ชะอำ”
ชะอำมีชื่อเดิมว่า “ชะอาน” เล่ากันว่าในสมัยกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถทรงนำทัพมาทางใต้ และนำทัพมาที่เมืองนี้ เพื่อไพร่พล ช้าง ม้า และล้างอานม้า จึงได้ชื่อว่า “ชะอาน” ต่อมาชื่อนี้จึงเพี้ยนมาเป็น “ชะอำ” ชะอำครั้งอดีตมีความเจริญทางด้านการท่องเที่ยวตั้งแต่ทางรถไฟสายใต้สร้างมาถึงในราวปี พ.ศ.2495
ชายหาดชะอำนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รู้จักกันมานานแล้วแต่ในอดีตนั้นยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2464 พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราทิปประพันธ์พงศ์และพระบรมวงศานุวงศ์ รามไปถึงข้าราชบริพารในสมัยนั้น ได้ออกสำรวจพื้นที่ชายทะเลชำอำและได้มาจับจองชายที่ดินทะเลตำบลชะอำ
ชะอำในอดีตนั้นอยู่ในความดูแลของอำเภอนายาง จังหวัดเพชรบุรี ชายทะเลของชะอำในสมัยก่อนเป็นป่า ตรงพื้นที่ด้านชายทะเลเป็นดงกระบองเพชรป่าหนามเสมาสลับกับมะขามเทศและต้นรัก ราษฎรในอดีตมักจะนิยมประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่สับปะรด และทำการประมง
หมู่บ้านชะอำนั้นตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟบ้านชะอำทางทิศตะวันตกของทางรถไฟ หมู่บ้านชะอำเป็นเพียงหมูบ้านเล็กๆ ที่บ้านปากคลอง และบ้านหนองแจง
เมื่อชะอำเริ่มเป็นที่รู้จักว่าเป็นเมืองชายทะเลที่สงบเงียบมีธรรมชาติสวยงาม อีกทั้งมีแหล่งน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีราษฎรอพยพเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากชุมชนเล็กๆ ขยายตังเป็นชุมชนใหญ่ มีการรวมตัวและจัดตั้งเป็นหมู่บ้านให้ชื่อว่า “สหคาม” โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าให้แต่งตั้งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ได้ทรงวางผังเมืองชะอำ วางผังตัดถนน และมีพระประสงค์เพื่อให้ชะอำเป็นที่พักตากอากาศตามแผนพัฒนาชะอำ ที่พระองค์ได้จัดทำขึ้น โดยมีกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี และกรมพระยามโนปกรณ์ฯ ร่วมเป็นที่ปรึกษา
ชะอำจึงเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่รู่จักกันในหมู่ชาวต่างประเทศ และยังเป็นที่ตั้งของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อน
ไปชะอำ รถยนต์ส่วนตัว
ทางที่สะดวกและใกล้ที่สุด คือ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และอำเภอปากท่อ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ไปจังหวัดเพชรบุรี รวมระยะทางประมาณ 123 กม. หรือจากกรุงเทพฯ เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลย 4 ผ่านนครปฐม ราชบุรี ไปยังเพชรบุรี เป็นระยะทาง 166 กม. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1543
รถโดยสารประจำทาง
มีทั้งรถประจำทางปรับอากาศ และรถธรรมดา ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2435-1199,0-2434-7192,0-2435-5605 รถโดยสารของบริษัทเอกชน ติดต่อที่เพชรบุรีทัวร์ โทร. 0-2435-7408 หรือเว็บไซต์ www.transport.co.th
นอกจากนี้ยังสามารถโดยสารรถประจำทางสานใต้หลายสายที่ผ่านเพชรบุรี เช่น
- สายกรุงเทพฯ - ชุมพร
- สายกรุงเทพฯ - หัวหิน - ปราณบุรี เป็นต้น
จากกรุงเทพฯ ยังสามารถเดินทางไปยังอำเภอต่างๆของจังหวัดเพชรบุรีได้ คือ
- กรุงเทพฯ - ชะอำ
- กรุงเทพฯ - ท่ายาง
- กรุงเทพฯ - บ้านแหลม
นอกจากนี้จากตัวเมืองเพชรบุรียังมีรถโดยสารไปยังหัวหิน ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และราชบุรีอีกด้วย
รถไฟ
จากกรุงเทพฯ มีบริการรถไฟไปเพชรบุรี และอำเภอชะอำทุกวัน รถไปออกจากสถานีรถไปหัวลำโพง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน่วยบริการเดินทาง โทร. 0-2411-3102 หรือที่เว็บไซต์ http://www.railway.co.th/
ตะลุยเมืองเพชรอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี(เขาวัง)
เขาวังเป็นที่ตั้งของพระราชวังแห่งแรกในหัวเมือง ในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นที่ประทับเพื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาพักผ่อนพระอิริยาบถ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามบนเขาแห่งนี้ เนื่องจากเขาวังมีอาณาบริเวณกว้างขวาง และสิ่งควรชมจำนวนมาก ถ้านักท่องเที่ยวมีเวลามากพอสมควรก็จะได้เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
สำหรับผู้ที่ต้องการขึ้นไปบนเขาวัง ทางอุทยานประวัติศาสตร์ก็มีสถานีรถรางไฟฟ้า หรือเคเบิ้ลคาร์ไว้บริการ
สถานีรถราง ตั้งอยู่ทางด้วนหลังของเขาวัง หากขับรถยนต์ส่วนตัวมาจากกรุเทพฯ เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าเพชรบุรีประมาณ 1 กม. จะมองเห็นธนาคารกรุงไทย สาขาพระนครคีรี อยู่ทางด้านขวามือ ให้กลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบคลองชลประทานข้างธนาคาร ประมาณ 800 ม. ก็จะถึงที่ตั้งสถานี
รถรางไปฟ้านั่งได้ 15-20 คน/เที่ยว และนอกจากรถรางไฟฟ้านักท่องเที่ยวก็สามารถเดินขึ้นไปเองก็ได้ โดยในระหว่างทางเดินขึ้นไปนั้นนักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับความซุกซนของเหล่าบันดาลิงแสมที่อาศัยอยู่บริเวณเขาวัง แต่นักท่องเที่ยวจะต้องระวังตัวให้ดี เพราะลิงเหล่านี้มักชอบแย่งสิ่งของต่างๆ ของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นของกิน หมวก กระเป๋า แว่นตา กล้องถ่ายภาพดังนั้นจะเดินขึ้นไปบนเขาวังก็ไม่ควรหิ้วอาหารขึ้นไปด้วยจะเป็นการดีที่สุด
พระราชวังนิเวศน์มฤคทายวัน
พระราชวังนิเวศน์มฤคทายวันตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหกที่ตำบลห้วยเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตรงหลักกิโลเมตรที่ 216 เลยหาดชะอำมาเล็กน้อย เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเลซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่ แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2467 ได้รับขนานนามว่า “พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง” ลักษณะเป็นไม้สองชั้นหันหน้าออกสู่ทะเล พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อกันโดยตลอด
พระที่นั่งสุนทรพิมาน พระที่นั่งแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา
พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นหมู่พระที่นั่ง ตรงกลางประกอบด้วยห้องต่างๆ สำหรับสำราญพระอิริยาบถ ห้องพักข้าราชบริพารที่คอยรับใช้ใกล้ชิด และห้องทรงพระอักษร
พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นอาคารโถงสองชั้น เปิดโล่ง ใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่างๆ และเป็นโรงละครซึ่งเคยจัดแสดงละครครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง และวิวาห์พระสมุทร
พระราชวังนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมทุกวันระหว่างเวลา 8.30 - 16.00 น. สำหรับผู้ใหญ่เข้าชมเป็นหมู่คณะ ต้องหนังสือถึงผู้กำกับการกองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายพระรามหก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0-3247-1388
พระดังเมืองเพชร หลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา
วัดตะเครานั้นตั้งอยู่ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม สามารถไปได้สองเส้นทาง ทางแรกก่อนจะเข้าตัวเมืองเล็กน้อยมีถนนแยกซ้ายมือเข้าสู่วัดตะเคราระยะทาง 15 กม. ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือ เดินทางจากเมืองเพชรไปบ้านแหลมแล้วขับรถต่อไปอีก 6 กม. ก็ถึงวัดตะเครา
ที่วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย สูง 29 นิ้ว หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว เรียกกันว่า หลวงพ่อตะเคราหรือหลวงพ่อทอง มีชาวเมืองและนักท่องเที่ยวไปกราบไหว้ปิดทองเป็นอันมาก กระทั่งบัดนี้แลไม่เห็นพุทธลักษณะเดิม มีประวัติเล่าถึงหลวงพ่อองค์นี้ว่าเป็นพระพี่พระน้อง 3 องค์ กับหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา หลวงพ่อบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม บางตำราว่าเป็นพี่น้องกันถึง 5 องค์ คือหลวงพ่อบางพลีใหญ่ และหลวงพ่อวัดไร่ขิงที่นครปฐมด้วย
ที่มาของพระพุทธรูปองค์นี้เมื่อปลายสมัยอยุธยาตอนที่ชาวบ้านแหลมเมืองเพชรหนีพม่าไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ปากน้ำแม่กลอง จนกระทั่งกลายมาเป็นบรรพบุรุษชาวสมุทรสงครามจนถึงทุกวันนี้
หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
“หลวงพ่อแดง” หรือ “พระครูญาณวิลาศ” พระชื่อดังแห่งวัดเขาบันไดอิฐ เป็นพระเกจิที่มีญาณสมาธิแก่กล้า และมีจิตตานุภาพสูงเพ่งเครื่องรางให้ขลังได้
ผ้ายันต์ และเหรียญลงยันต์ของหลวงพ่อแดงนั้นมีผู้นิยมเสาะหาไปบูชากันมาก หลวงพ่อรูปนี้ท่านมีอะไรดี ทำไมใครๆ ทั่วสารทิศจึงพากันมาวัดเขาบันไดอิฐกันไม่ขาดสาย
มีเรื่องเล่ากันมาว่า ระหว่าง พ.ศ.2477 ถึง พ.ศ.2480 เวลานั้นเกิดโรคระบาดในสัตว์ วัวควายเป็นโรคปากเท้าเปื่อยติดต่อร้ายแรงพากันล้มตายเป็นเบือ ราษฎรจึงพากันไปหาหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าป้องกันโรคระบาดในสัตว์ให้ด้วย หลวงพ่อแดงจึงปลุกเสกเลขยันต์ในผ้ารูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ แจกให้ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวควายนำไปผูกปลายไม้ปักไว้ที่คอกสัตว์ของตน
จากนั้นปรากฏว่า คอกสัตว์ที่ปักผ้าประเจียดยันต์หลวงพ่อแดงเลยไม่ตาย ทุกบ้านในตำบลใกล้เคียงวัดเขาบันไดอิฐเมื่อรู้กิติศัพท์จึงพากันมาขอยันต์หลวงพ่อแดงทุกวันมิได้ขาด แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วตั้งแต่ 16 มกราคม พ.ศ.2517 แต่ความนิยมเลื่มใสศรัทธาในวัตถุมงคลของท่านยังไม่เสื่อมคลาย
ร้านอร่อยในหาดชะอำ
สำหรับร้านอาหารบริเวณหาดชะอำนั้นมีอยู่มากมายหลายร้าน ทั้งร้านอาหารตามสั่งง่ายๆ ร้านส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว อาหารประจำริมทะเล หรือจะเป็นภัตตาคารสุดหรูของโรงแรมใหญ่ๆ และร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อหลายร้าน นักท่อเที่ยวก็จะสามารถเลือกชิมได้ตามใจชอบ
แต่ถ้าเป็นนายสัญจรไปเที่ยวทะเล นายสัญจรก็จะขอเลือกอาหารทะเลเป็นหลัก มาทะเลทั้งทีจะไปกินข้าวผัด หรือว่ากระเพราไก่ไข่ดาวได้อย่างไร
สำหรับร้านอาหารทะเลที่นายสัญจรอยากจะแนะนำก้อคือร้านอาหารบริเวณทางไปสะพานปลา เพราะแถวนั้นมีร้านอาหารทะเลตั้งอยู่หลายร้าน เช่น
ครัวเม็ดทราย โทร.0-3243-0196
ครัวไข่มุก โทร.0-3234-0376
ปลาทู เรสเตอรองส์ โทร.0-3250-8175
ชมวิวซีฟู้ด โทร.084-7228038
สังเวียนซีฟู้ด โทร.0-3247-2280
ขามเงินซีฟู้ด โทร.0-3247-0669
3 สิ่งมหัศจรรย์ทัเลไทยหาดชะอำก็มี
1. ส้มตำ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง
สำหรับบรรยากาศชายหาดแบบไทยๆ ก็ต้องมีข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอ
ซึ่งในอาหารชุดนี้ถือได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติไทยของเราไปแล้วก็ว่าได้ เพราะไปทะเลแทบทุกที่ต้องมีข้าวเหนียว ส้มตำ และไก่ย่างขายซึ่งถือเป็นข้อดีเพราะเป็นเครื่องยืนยังได้ว่า ไปเที่ยวทะเลแล้วจะไม่อดตายอย่างแน่นอน
สำหรับหาดชะอำร้านส้มตำนั้นมีให้เลือกมากมาย และอร่อยทุกร้าน แต่ก่อนจะสั่งขอแนะนำว่าให้ตรวจดูราคาให้ดีๆ ก่อนจะสั่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็ง น้ำเปล่า ก็ควรจะตรวจให้ดีๆ เพราะถ้าดวงซวยเจอบางร้านที่แม่ค้าใจร้ายก็อาจจะโดนฟันก็ได้ ผู้อ่านคงไม่เข้าใจนะว่าโดนฟันในที่รี้คืออะไร
2. เตียงผ้าใบหรือเตียงชายหาดให้เช่าอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของชายหาดไทย เพราะแทบทุกหาดก็ต้องมี หาดชะอำก็มีเยอะหัวหินไม่ค่อยมีเพราะฝรั่งไม่ค่อยนิยม แต่นายสัญจรเคยไปบางแสนเตียงผ้าใบเยอะมากมาย เยอะถึงขนาดแทบไม่มีทางเดิน เตียงผ้าใบนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ถ้าคุณเที่ยวทะเลคุณมีที่นั่งพักผ่อน นั่งกินดื่มกันริมทะเลได้อย่างสบายๆ แน่นอน
นายสัญจรได้หาราคาในการเช่าเตียงผ่าใบที่เทศบาลเมืองชะอำได้กำหนดขึ้นมา คือ เตียงผ้าใบ 30 บาท/ตัว นั่งได้ 5 ชั่งโมง ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย
3. ห่วงยางเช่า คือ สุดยอดของอุปกรณ์เล่นน้ำ และยังถือว่าเป็นอุปกรณ์คลาสิก เพราะว่าไม่ว่าจะไปที่หาดไหน ก็จะต้องเจอแทบทุกหาด ทั้งคนจนคนรวยต่างก็ชอบเล่นห่วงยวง และค่าเช่าห่วงยางก็ไม่แพง 50 บาท ก็เล่นได้ทั้งวัน ลอยคอโต้คลื่นไปโต้คลื่นมาก็สนุกแล้ว บางครั้งเช่าห่วงยางใหญ่ๆ ก็เล่นได้ตั้ง 2-3 คน สำหรับที่หาดชะอำนั้น เมื่อไปถึงแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหาห่วงยางเช่าไม่ได้ เพราะว่ามันมีให้เช่าอยู่ตลอดแนวชายหาดสำหรับสำหรับราคาก็ให้ลองสอบถามดูหลายๆ แห่ง เผื่อว่าจะได้ของถูก
ราคาห้องพัก เรือกล้วย ร้านอาหาร ของกิน ณ ชายหาดชะอำ
1. สำหรับราคาห้อพัก ราคาอาหาร
ในร้านผู้ประกอบการมีราคาแจ้งไว้ชัดเจนหน้าสถานประกอบการราคาอาหาร(ร้านอาหาร) / ราคาห้องพักตามกฎหมายผู้มีอำนาจจับปรับ คือ กรมการค้าภายใน หรือ สนง.การค้าภายในจังหวัดเพชรบุรีเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองชะอำไม่มีอำนาจจับปรับ แต่มีหน้าที่ดูแลผู้ประกอบการให้ขายภายในราคาที่แจ้งตามป้ายราคาหากขายเกินราคาเจ้าหน้าที่เทศบางทำได้เพียงแจ้งเตือนให้ขายตามราคาป้าย
สำหรับประกาศจังหวัดเพชรบุรีเรื่องการปิดป้ายแสดงราคา
1. ให้จำหน่ายสินค้าราคาที่เป็นธรรม และปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน (ฝ่าฝืนปรับ 10,000 บาท)
2. กักตุนสินค้า ขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผล (จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
ผู้บริโภคที่ไม่ได้รับคามเป็นธรรม
ร้องเรียนได้ที่..
สายด่วนแม่บ้าน 1569 กรมการค้าภาใน สนง.การค้าภายใน จ.เพชรบุรี โทร.0-3242-5431,0-3240-1391
เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
2.ของกินหาบเร่ เตียงผ้าใบ เรือกล้วย
ทุกวันจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตรวจสอบอยู่เป็นประจำ เทศบาลมีระเบียบผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกี และเรือกล้วย ข้อกำหนดสำหรับผู้ประกอบการค้าหาบเร่ แผงลอย เพื่อการควบคุมผู้ประกอบการ โดยผู้ประกอบการทั้งหมดจะต้องทำประวัติกับเทศบาล ทำบัตรผู้ทำการค้าขายเพื่อไว้ควบคุม และตรวจสอบผู้ละเมิด และจัดให้มีการติดป้ายแสดงราคาไว้อย่างชัดเจน ณ สิ้นค้าที่จำหน่าย
ราคาปัจจุบัน
เรือกล้วย - ครึ่งชม. 800 บาท 1 ชม. 1,600 บาท
รอบละ 100 บาท/คน
เจ็ตสกี - ครึ่งชม. 1,200 บาท 1 ชม. 2,400 บาท
โดนัน - รอบละ 200 บาท/คน รอบหนึ่งประมา 10 นาที
*มีการควบคุมและกำหนดราคาโดยชมรมเรือกล้วย*
เตียงผ้าใบ - 30 บาท/ตัว นั่งได้ 5 ชม.
ของกินหาบเร่ - ราคาตามป้าย เช่น ของทอด 3 กล่อง 100 บาท กล่องละ 35 บาท
หากพบผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานปลัดเทศบาลงานเทศกิจ 0-3243-37221 หรือติดต่อมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ณ จุดชมวิวชายหาดชะอำ
ข้อเสนอแนะในการติดต่อห้องพักหรือบริการต่างๆ
- ให้ติดต่อโดยตรงกับสถานประกอบการเอง เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรม
- ขอรับใบเสร็จ และระบุรายละเอียดตามที่ให้บริการ ตามจำนวนเงินที่ชำระจริง เพื่อสามารถนำมาเป็นหลักฐานในการร้องเรียนเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม
______________________________________________________________
ข้อมูลจาก : นายสัญจร ตลอนทัวร์. เที่ยวเช้ายันค่ำชะอำบ้านเรา. กรุงเทพฯ: สุภัชนิญค์ พริ้นติ้ง